Friday, May 18, 2012

ชีวิตและการรับใช้




เคล็ดลับที่ 9
ชีวิตและการรับใช้

                พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตและความสว่างและความสุขของจักรวาล  เช่นเดียวกับแสงสว่างที่มาจากดวงอาทิตย์และเช่นเดียวกับสายธารน้ำที่พุ่งออก มาจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิต  พระพรของพระเจ้าจะไหลออกจากพระองค์ไปยังสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง  เมื่อจิตใจของมนุษย์คนใดมีชีวิตของพระเจ้าร่วมสถิตอยู่ด้วย  ความรักและพระพรของพระองค์จะไหลผ่านคนนั้นไปยังผู้อื่นด้วย  {SC 77.1}
                การ ไถ่มนุษย์ที่ล้มลงในบาปให้รอดและฉุดเขาขึ้นมาเป็นสิ่งที่นำความสุขมายังพระ ผู้ช่วยให้รอดของเรา  เพื่อทำการนี้ให้สำเร็จ  พระองค์ไม่ได้ทะนุถนอมชีวิตของพระองค์เองไว้  แต่ทรงยอมทนต่อกางเขนโดยไม่ใส่ใจต่อความละอาย  ทูตสวรรค์ก็มีส่วนที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุขอยู่เสมอเช่นเดียวกัน  นี่คือความชื่นชมยินดีของพวกเขา   สำหรับผู้ที่มีจิตใจที่เห็นแก่ตัวนั้น  พวกเขาจะถือว่าการปรนนิบัติผู้ยากไร้ที่มีสภาพและฐานะที่ด้อยกว่าในทุกๆ ด้านเป็นงานที่ตกต่ำแต่การปรนนิบัติเช่นนี้เป็นงานที่ทูตสวรรค์ผู้ไม่มี บาปกระทำอยู่  วิญญาณแห่งการรับใช้อย่างไม่เห็นแก่ตัวของพระคริสต์จะแทรกซึมไปทั่วทั้ง สวรรค์  เป็นหัวใจของความสุขที่แท้จริงของที่นั่น  ผู้ติดตามพระคริสต์จะต้องมีวิญญาณเช่นนี้เป็นภารกิจที่พวกเขาจะต้องทำ  {SC 77.2}
                เมื่อมีความรักของพระคริสต์ตั้งอยู่ในจิตใจของเรา  ความรักนั้นจะเป็นเหมือนกลิ่นอันหอมหวานซึ่งเราจะเก็บซ่อนไว้ไม่ได้  ทุกคนที่เข้ามาสัมผัสกับเราจะรู้สึกได้ถึงอิทธิพลอันศักดิ์สิทธิ์นี้  พระวิญญาณของพระคริสต์ที่ทรงร่วมสถิตอยู่ในจิตใจจะเป็นเหมือนบ่อน้ำพุกลางทะเลทราย  ซึ่งมีน้ำไหลรินออกมาสร้างความชุ่มชื่นและดับกระหายให้ผู้ที่กำลังใกล้จะพินาศที่ปรารถนาจะดื่มน้ำแห่งชีวิต  {SC 77.3}
                ความ รักที่เรามีให้กับพระคริสต์จะแสดงออกให้เห็นเป็นความปรารถนาที่จะทำงานรับ ใช้เหมือนพระองค์เพื่อเป็นพระพรและยกชูมนุษยชาติให้สูงขึ้น  การรับใช้นี้จะทำให้เกิดความรัก  ความอ่อนโยน  และความเห็นใจต่อสรรพสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสร้างขึ้นมาซึ่งอยู่ภายใต้การดูแล ของพระบิดาของเราในสวรรค์  {SC 77.4}
                ชีวิต ของพระผู้ช่วยให้รอดในโลกนี้ไม่ใช่ชีวิตที่สะดวกสบายและไม่ใช่ชีวิตที่อุทิศ เวลาเพื่อพระองค์เอง  แต่พระองค์ทรงทำงานด้วยความหนักแน่นจริงใจ  และด้วยความเพียรที่ไม่เคยย่อท้อเพื่อนำความรอดมาให้แก่มนุษยชาติที่หลงหาย  จากรางหญ้าไปจนถึงการเขนคาล์วารี  พระองค์ทรงดำเนินไปตามทางที่ไม่มีการตามใจตนเองและไม่เคยหาทางหลีกหนีจาก ภารกิจที่ยากลำบากจากการเดินทางอันแสนเจ็บปวด  และไม่เคยหลีกหนีจากการใส่ใจและงานที่ทำให้หมดสิ้นเรี่ยวแรง  พระองค์ตรัสว่า  บุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อให้เขาปรนนิบัติแต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา  และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก  (มัทธิว 20:28)  นี่คือเป้าหมายเดียวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของพระองค์  ทุกสิ่งนอกเหนือจากนั้นเป็นเรื่องรองและไม่มีความสำคัญเท่า  อาหารและเครื่องดื่มของพระองค์คือ  การทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าและทำพระราชกิจของพระองค์ให้สำเร็จ  การทำเพื่อตัวเองและหาผลประโยชน์ให้กับตนเองไม่มีส่วนในพระราชกิจของพระองค์ {SC 78.1}
                ดัง นั้น  ผู้ที่มีส่วนในพระคุณของพระเจ้าจะมีความพร้อมที่จะเสียสละบางอย่างเพื่อคน อื่นที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์  เพื่อพวกเขาจะได้มีส่วนร่วมในของประทานจากสวรรค์  พวกเขาจะทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้เพื่อทำให้โลกที่เขาอาศัยอยู่นั้นดีขึ้น  ความตั้งใจเช่นนี้เป็นผลที่เกิดขึ้นในจิตวิญญาณที่ได้กลับใจอย่างแท้จริง  ในทันทีที่มีคนหนึ่งได้เข้ามาหาพระคริสต์  ความปรารถนาที่จะบอกให้ผู้อื่นทราบถึงพระสหายล้ำค่าที่เขาพบในองค์พระเยซูก็ จะเกิดขึ้นในจิตใจของเขา  เขาจะเก็บความจริงที่ช่วยให้รอดและชำระให้พ้นจากบาปไว้ในใจของเขาอย่างเงียบ ไม่ได้  หากเราสวมใส่ความชอบธรรมของพระคริสต์ไว้และเต็มล้นด้วยความสุขจากการมีพระ วิญญาณของพระคริสต์ทรงร่วมสถิตอยู่ด้วย  เราจะเก็บสันติสุขไว้อยู่กับตัวไม่ได้  หากเราเคยลิ้มรสและรู้ว่าพระเจ้าประเสริฐ  เราจะมีเรื่องเล่าให้ผู้อื่นฟัง  เช่นเดียวกับฟิลิปเมื่อพบพระผู้ช่วยให้รอดเราจะเชิญชวนผู้อื่นให้เข้ามายัง เบื้องพระพักตร์พระองค์  เราจะคอยบอกให้ทุกคนได้ทราบถึงความน่าประทับใจของพระคริสต์และสภาพที่แท้ จริงของโลกที่กำลังจะมาถึงซึ่งตามองไม่เห็น  จะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะติดตามทางที่พระคริสต์ได้ดำเนินไปแล้ว  จะมีความต้องการให้คนรอบข้างของเราได้หันไป  ดูพระเมษโปดกของพระเจ้า  ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย  (ยอห์น 1:29)  {SC 78.2}
                เมื่อเราทำให้ตัวของเราเป็นพระพรแก่ผู้อื่น  พระพรนั้นก็จะย้อนกลับมาหาเรา  นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้เรามีส่วนร่วมในแผนการแห่งการไถ่ให้รอด  พระเจ้าทรงเปิดโอกาสให้มนุษย์มีส่วนในธรรมชาติของพระองค์และเพื่อให้มนุษย์กระจายพระพรไปให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  นี่เป็นเกียรติสูงสุดและเป็นความสุขยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าจะทรงประทานให้แก่มนุษย์ได้  ผู้ที่เข้ามาร่วมทำงานแห่งรักนี้  จะเข้ามาอยู่ใกล้ชิดพระผู้สร้างของเขาได้มากที่สุด  {SC 79.1}
                พระ เจ้าอาจมอบหมายให้ทูตสวรรค์เป็นผู้ประกาศข่าวสารแห่งพระกิตติคุณและเป็นผู้ รับภาระการรับใช้ด้วยรักทั้งหมด  พระองค์อาจใช้วิธีอื่นๆ เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ  แต่ด้วยความรักที่ไม่มีขอบเขตจำกัดของพระองค์  พระเจ้าทรงเลือกเราให้เป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์  กับพระคริสต์และกับทูตสวรรค์  เพื่อเราจะมีส่วนร่วมในพระพร  ในความสุข  และยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น  ซึ่งเป็นผลที่ได้จากงานของการรับใช้ที่ไม่เห็นแก่ตัว  {SC 79.2}
                โดยการร่วมทุกข์กับพระคริสต์  เราจะเข้าใจความทุกข์ยากของพระองค์  การยอมสละตนเองเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นจะทำให้วิญญาณแห่งการรู้จักแบ่งปันที่มีอยู่ในจิตใจของผู้ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น  พระองค์มั่งคั่ง  พระองค์ก็ยังทรงยอมเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลาย  เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่งมีเนื่องจากความยากจนองพระองค์  (2 โครินธ์ 8:9)  และนี่คือวิธีที่พระเจ้าจะใช้เพื่อให้เราทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในการสร้างเราขึ้นมาสำเร็จ  เพื่อจะได้มีชีวิตที่เป็นพระพรสำหรับเราเอง  {SC 79.3}
                หาก ท่านจะออกไปทำงานรับใช้ตามที่พระคริสต์ทรงวางแผนให้สาวกของพระองค์ทำและนำ จิตวิญญาณกลับมาหาพระองค์แล้ว  ท่านก็จะรู้สึกถึงความต้องการที่จะมีประสบการณ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้นและความ ต้องการที่จะมีความรอบรู้เรื่องของพระเจ้ามากขึ้นกว่าเดิม  และท่านก็จะรู้สึกหิวและกระหายความชอบธรรม  ท่านจะอ้อนวอนกับพระเจ้าและความเชื่อของท่านจะเข้มแข็งขึ้นและจิตวิญญาณของ ท่านจะดื่มน้ำที่ได้จากบ่อแห่งความรอดที่ลึกกว่าเดิม  เมื่อท่านต้องการเผชิญหน้ากับการต่อต้านและการทดลอง  ท่านจะถูกผลักให้ไปศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐาน  ท่านจะเจริญขึ้นในพระคุณและความรอบรู้ในพระคริสต์และจะได้รับประสบการณ์ที่ มีค่า  {SC 80.1}
                วิญญาณ แห่งการรับใช้ผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัวจะสร้างอุปนิสัยให้ลึกล้ำมั่นคง  และน่ารักอย่างพระคริสต์  และนำสันติสุขและความผาสุกมาให้แก่ผู้ที่มีอุปนิสัยเช่นนี้  ความใฝ่ฝันนี้จะถูกปรับให้ยิ่งสูงขึ้นไป  จะไม่มีช่องว่างสำหรับความเกียจคร้านหรือความเห็นแก่ตัว  ผู้ที่ดำรงชีวิตด้วยคุณความดีของคริสเตียนจะเจริญเติบใหญ่ขึ้นและจะเป็นคน เข้มแข็งที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าได้  พวกเขาจะมีสายตาทางฝ่ายวิญญาณที่ชัดเจน  ความเชื่อที่เติบใหญ่ขึ้นอย่างมั่นคงและการอธิษฐานของเขาจะมีอำนาจเพิ่ม ขึ้น  พระวิญญาณของพระเจ้าที่เคลื่อนไหวในเขาจะชักนำวิญญาณจิตของเขาให้สนองตอบต่อ การสัมผัสของพระเจ้า  ทำให้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอันศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นได้  ผู้ที่อุทิศตนอย่างไม่เห็นแก่ตัว  เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นกำลังจัดการกับการสร้างความรอดของเขาเองอย่าง แน่นอน  {SC 80.2}
                วิธี เดียวที่จะเจริญขึ้นในพระคุณคือ  การทำงานทุกอย่างที่พระคริสต์ทรงมอบหมายให้เราทำอย่างไม่คิดถึงประโยชน์ส่วน ตน  ลงมือทำงานอย่างสุดความสามารถของเราเพื่อให้ความช่วยเหลือและเป็นพระพรให้ แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือซึ่งเราช่วยเขาได้  กำลังฝ่ายกายจะได้มาด้วยการออกกำลังกาย  กิจกรรมแห่งการรับใช้เป็นส่วนสำคัญของชีวิต  ผู้ที่พยายามรักษาชีวิตคริสเตียนด้วยการคอยแต่จะรับพระพรที่ได้มาโดยพระคุณ และไม่ทำอะไรเพื่อพระคริสต์เลย  ก็เปรียบเหมือนคนที่มีชีวิตที่คอยแต่จะกินโดยไม่ทำงาน  และผลจากการทำเช่นนี้ของชีวิตฝ่ายวิญญาณก็มีความคล้ายคลึงกับชีวิตในโลกธรรม ชาติ นั่นคือ  มักจะนำไปสู่ความเสื่อมโทรมและหมดสภาพ  ผู้ที่ไม่ยอมใช้แขนขา  ในไม่ช้าก็จะสูญเสียความสามารถไปจนหมด  ดังนั้น  คริสเตียนที่ไม่ยอมนำพละกำลังที่พระเจ้าทรงประทานให้ออกมาใช้  เขาไม่เพียงแต่จะไม่เติบใหญ่ขึ้นในพระคริสต์เท่านั้น  แต่จะสูญเสียพละกำลังที่เขามีอยู่แล้วไปด้วย  {SC 80.3}
                คริ สตจักรของพระคริสต์เป็นตัวแทนที่พระเจ้าทรงจัดตั้งไว้เพื่อความรอดของ มนุษย์  พันธกิจของคือการประกาศพระกิตติคุณออกไปทั่วโลก  หน้าที่นี้ถูกจัดไว้ให้คริสเตียนทุกคน  ทุกคนต้องทำหน้าที่ตามพระบัญชาของพระผู้ช่วยให้รอดตามแต่ขนาดความสามารถและ โอกาสที่เขามี  ความรักของพระคริสต์ที่ทรงเปิดไว้ให้แก่เรา  ทำให้เราเป็นหนี้คนทั้งหลายที่ยังไม่รู้จักพระองค์  พระเจ้าทรงประทานแสงสว่างให้แก่เรา  ไม่ใช่มีไว้สำหรับตัวเราเองเท่านั้น  แต่เพื่อให้เราส่องแสงสว่างนั้นไปให้แก่ผู้อื่น  {SC  81.1}
                หาก ผู้ติดตามของพระคริสต์จะตื่นตัวในหน้าที่ของเขาแล้ว  จะมีคนนับเป็นพันๆ ออกไปประกาศพระกิตติคุณในดินแดนที่ยังไม่มีผู้เชื่อพระเจ้าแทนที่จะมีคน ประกาศอยู่เพียงคนเดียวอย่างเช่นทุกวันนี้  และทุกคนที่ไม่สามารถลงมือทำงานเหล่านี้ด้วยตัวเองได้  ก็จะสนับสนุนงานเหล่านั้นด้วยทรัพย์ของเขา  ความเห็นใจและคำอธิษฐานของเขา  และในประเทศที่มีคริสเตียนจะมีการทำงานเพื่อจิตวิญญาณด้วยความจริงใจมากยิ่ง ขึ้น  {SC 81.2}
                เราไม่จำเป็นต้องไปยังดินแดนที่ห่างไกลหรือแม้แต่ออกไปจากสังคมวงแคบของบ้าน  หากมีหน้าที่ที่เราต้องทำเพื่อพระคริสต์ที่นั่น  เราทำงานเช่นนี้ได้ในแวดวงของบ้าน  ในคริสตจักร  กับผู้ที่เราคบหาสมาคมด้วย  และกับผู้ที่เราทำธุรกิจด้วย  {SC 81.3}
                เมื่อ พระผู้ช่วยให้รอดของเรามีชีวิตอยู่ในโลก  พระองค์ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานอย่างอดทนภายในร้านช่างไม้ที่เมืองนาซาเร็ธ  ทูตสวรรค์ผู้รับใช้คอยเฝ้าติดตามพระเจ้าแห่งชีวิตในขณะที่ทรงดำเนินอยู่ เคียงข้างคนยากจนและผู้ที่ใช้แรงงาน  พระองค์ไม่ได้รับการยอมรับและไม่ได้รับพระเกียรติ  พระองค์ทรงทำหน้าที่ของพระองค์อย่างสัตย์ซื่อทั้งในขณะที่ทรงประกอบธุรกิจ อันต่ำต้อยพอๆ กับในขณะที่ทรงรักษาผู้ป่วยหรือดำเนินอยู่ท่ามกลางคลื่นลมอันปั่นป่วนของ ทะเลกาลิสี  ดังนั้น  เราก็จะดำเนินและทำงานร่วมกับพระเยซูได้ในหน้าที่และตำแหน่งที่ต่ำต้อยที่ สุดของชีวิต  {SC 81.4}
                อัครทูตกล่าวว่า  ให้  ทุกคนดำรงอยู่ในฐานะอันใดเมื่อพระเจ้าทรงเรียกก็ให้ผู้นั้นอยู่กับพระเจ้าในฐานะนั้น  (1 โครินธ์ 7:24)  นักธุรกิจจะประกอบธุรกิจของเขาด้วยความซื่อตรงเพื่อถวายเกียรติแด่พระอาจารย์ของเขาหากเขาเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระคริสต์  เขาก็จะนำศาสนาของเขาเข้าไปในทุกที่และแสดงให้มนุษย์เห็นวิญญาณของพระคริสต์  นายช่างที่ขยันขันแข็งและสัตย์ซื่อก็จะเป็นตัวแทนของพระองค์ผู้ทรงทำงานท่ามกลางผู้ที่ต่ำต้อย  ณ  กลางหุบเขาแห่งกาลิสี  ทุกคนที่นำพระนามของพระคริสต์มาใช้  จะทำตามหน้าที่ของเขา  จนเมื่อผู้อื่นมองเห็นการงานที่ดีของเขาแล้วจะสรรเสริญพระผู้สร้างและพระผู้ไถ่ของเขา  {SC 82.1}
                มี คนจำนวนมากแก้ตัวกับการไม่ยอมนำของประทานที่เขามีอยู่มาถวายรับใช้พระคริสต์ ด้วยให้เหตุผลว่า  มีผู้อื่นที่มีของประทานที่ดีกว่าและมีความสามารถที่เหนือกว่า  มักมีความคิดเห็นที่แพร่หลายว่า  ผู้ที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้นที่ต้องนำความสามารถของเขามามอบถวายรับใช้ พระเจ้า  คนมากมายเข้าใจว่าความสามารถพิเศษนั้นทรงโปรดประทานให้แก่กลุ่มคนที่ได้รับ ความโปรดปรานเป็นพิเศษเท่านั้น  ส่วนคนอื่นๆ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้ามาแบ่งรับภาระหรือการตอบแทน  แต่ในคำอุปมามิได้สอนไว้เช่นนี้  เมื่อเจ้าของบ้านเรียกบ่าวของท่านเข้ามาพบ  ท่านได้มอบหมายงานให้ทุกคนทำ  {SC 82.2}
                ด้วยจิตวิญญาณแห่งรัก  เราจะทำหน้าที่ที่ต่ำต้อยที่สุดในชีวิตเพื่อ  ทำถวายพระองค์พระผู้เป็นเจ้า  (โคโลสี 3:23)  หากความรักของพระเจ้าอยู่ในจิตใจแล้ว  ชีวิตนั้นก็จะแสดงความรักนั้นออกมา  กลิ่นอันหอมหวานของพระคริสต์จะอยู่รอบตัวเรา  และอิทธิพลของเราจะเด่นขึ้นมาและทำให้ผู้อื่นได้รับพระพร  {SC 82.3}
                ท่าน ไม่ต้องคอยโอกาสที่ยิ่งใหญ่หรือหวังให้มีความสามารถพิเศษก่อนแล้วจึงค่อยออก ไปทำงานรับใช้พระเจ้า  ท่านต้องไม่คิดว่า  โลกจะคิดอย่างไรกับท่าน  หากชีวิตประจำวันของท่านเป็นพยานถึงความเชื่อของท่านที่บริสุทธิ์และสัตย์ จริง  และคนอื่นๆ ก็มั่นใจว่าท่านต้องการให้พวกเขาได้รับประโยชน์  ความพยายามของท่านก็จะไม่สูญเปล่า  {SC 83.1}
                สาวก ที่ต่ำต้อยและเลวที่สุดของพระเยซูยังทำตัวให้เป็นพระพรแก่ผู้อื่นได้  พวกเขาอาจจะไม่เคยตระหนักว่าได้ทำอะไรที่ดีเป็นพิเศษ  แต่จากอิทธิพลที่เขาทำไปโดยไม่รู้ตัวนั้น  ทำให้เกิดคลื่นแห่งพระพรที่จะขยายออกเป็นวงกว้างและฝังลึกยิ่งขึ้น  และพวกเขาก็ไม่เคยรับรู้ถึงผลลัพธ์ที่เป็นพระพรนั้นเลยจนกว่าจะถึงวันนั้น  วันที่การกระทำของเขาจะได้รับผลตอบแทน  พวกเขาไม่ได้รู้สึกหรือไม่ได้คิดว่า  สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นยิ่งใหญ่เพียงไร  พวกเขาไม่เคยกังวลใจถึงเรื่องความสำเร็จ  เขาเพียงแต่ต้องมุ่งไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ ทำงานที่พระเจ้าทรงกำหนดให้อย่างซื่อสัตย์  และชีวิตของเขาก็จะไม่สูญเปล่า  จิตวิญญาณของเขาจะเติบใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนคล้ายคลึงกับของพระคริสต์  ขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่ในโลกนี้  พวกเขาเป็นคนทำงานร่วมกับพระเจ้า  และด้วยเหตุนี้  ในชีวิตที่จะมาถึงนั้น  พวกเขาจึงเหมาะที่จะทำงานที่สูงส่งกว่าและได้รับความสุขที่ไม่มีเงามืดมา บดบัง  {SC 83.2}

Visit us for more information http://www.greatesthope.com

For more information, please contact 
Alejandro at mienfield@yahoo.com
or contact
Thailand Adventist Mission 
12 Soi Pridi Banomyong 37, Sukhumvit 71
Klongtan Nua, Wattana, Bangkok 10110
 
Telephone: 02-391-3595, 02-391-0525
Fax: 02-381-1928
 
Information:  
P.O. Box 234 Prakanong Bangkok 10110 Thailand
 

No comments: