Friday, May 18, 2012

ความเชื่อและการยอมรับ



เคล็ดลับที่ 6
ความเชื่อและการยอมรับ

                เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ปลุกสามัญสำนึกของท่านให้ตื่นขึ้น  ท่านจึงเริ่มมองเห็นความเลวร้ายของบาป  มองเห็นอำนาจของมัน  ความผิดของมันความทุกข์ยากของมัน  และท่านจะมองความบาปด้วยความรังเกียจ  ท่านรู้สึกว่า  บาปได้แยกตัวท่านออกไปจากพระเจ้า  ท่านถูกจองจำด้วยอำนาจของความชั่ว  เมื่อท่านดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นมากขึ้นเท่าใด  ท่านก็จะยิ่งพบว่า  ท่านช่วยตัวเองไม่ได้  เป้าหมายของท่านไม่บริสุทธิ์  จิตใจของท่านไม่สะอาด  ท่านมองเห็นว่าชีวิตของท่านเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวและความบาป  ท่านปรารถนาที่จะได้รับการอภัย  ได้รับการชำระ  ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระท่านจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้ปรองดองกับพระ เจ้าและมีลักษณะเหมือนพระองค์  {SC 49.1}
                สันติ สุขเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ  คือการอภัยและความสงบสุขและความรักจากสวรรค์เบื้องบนที่อยู่ภายในวิญญาณจิต ของท่าน  เงินทองจัดซื้อเอาไว้ไม่ได้  ปัญญาจัดหามาให้ไม่ได้  ความรอบรู้นำไปให้ถึงไม่ได้  ท่านหวังที่จะได้สันติสุขนี้มาครอบครองด้วยความพยายามของท่านเองไม่ได้  แต่พระเจ้าทรงยื่นมาเป็นของประทานให้แก่ท่าน  โดยไม่ต้องเสียเงินเสียค่า  (อิสยาห์ 55:1)  สันติสุขนี้จะเป็นของท่าน  เพียงแต่ท่านจะยื่นมือของท่านและรับเอาไว้  พระเจ้าตรัสว่า  ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม  ก็จะขาวอย่างหิมะ  ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง  ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ  (อิสยาห์ 1:18เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุจิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า (เอเสเคียล 36:26)  {SC 49.2}
                ท่าน สารภาพบาปของท่านแล้ว  ละทิ้งไปด้วยความเต็มใจ  ท่านตัดสินใจที่จะมอบถวายตัวของท่านเองให้พระเจ้า  ขอให้ท่านไปหาพระองค์เดี๋ยวนี้และทูลขอพระองค์ให้ชำระบาปของท่านและประทาน จิตใจใหม่ให้แก่ท่าน  แล้วเชื่อว่าพระองค์ทรงประทานให้แก่ท่าน  เพราะว่าพระองค์ทรงสัญญาไว้แล้ว  นี่คือบทเรียนที่พระเยซูทรงสอนในขณะที่ทรงดำเนินอยู่ในโลกนี้ว่า  ของประทานที่พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานให้แก่เรานั้น  เราจะต้องเชื่อว่าเราได้รับแล้ว  และของประทานนั้นจะเป็นของเรา  พระเยซูทรงรักษาประชาชนให้หายจากโรคต่างๆ เมื่อพวกเขาวางใจในอำนาจของพระองค์  พระองค์ทรงประทานการช่วยเหลือในสิ่งที่ตามองเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่หนุนใจให้เขาวางใจพระองค์  ในสิ่งที่ตามองไม่เห็นนั่นคือ  นำพวกเขาให้เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่จะทรงอภัยบาปผิดได้  ในเรื่องนี้  พระองค์ทรงกล่าวไว้อย่างชัดเจนเมื่อพระองค์ทรงรักษาชายง่อย  แต่ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่า  บุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะโปรดยกความผิดบาปได้  พระองค์จึงตรัสสั่งคนง่อยว่า  จงลุกขึ้นยกที่นอนกลับไปบ้านเถิด  (มัทธิว 9:6)  ยอห์นผู้ประกาศก็ได้กล่าวถึงการอัศจรรย์ของพระคริสต์ไว้เช่นกันว่า  แต่ การที่ได้บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้  ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า  พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์  พระบุตรของพระเจ้า  และเมื่อมีความเชื่อแล้ว  ท่านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์ (ยอห์น 20:31)  {SC 49.3}
                จาก เหตุการณ์เรียบง่ายที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ซึ่งกล่าวถึงวิธีที่พระเยซู รักษาคนเจ็บป่วย  เราเรียนรู้บางเรื่องว่าเราจะต้องเชื่อพระองค์อย่างไรเพื่อจะได้รับการอภัย จากบาป  ให้เราไปดูเรื่องของชายง่อยที่ข้างสระน้ำเบธซาธา  ผู้ป่วยน่าสงสารคนนี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  เขาไม่ได้ใช้ขามานานถึงสามสิบแปดปีแล้ว  แต่ถึงกระนั้น  พระเยซูทรงบัญชาว่า  จงลุกขึ้นยกแคร่ของเจ้าเดินไปเถิด  คนป่วยผู้นี้อาจจะตอบพระองค์ว่า  ท่านเจ้าข้า  หากท่านจะรักษาให้ข้าพเจ้าหายดีแล้ว  ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังพระคำของพระองค์  แต่เขาไม่ได้พูดเช่นนี้  เขาเชื่อพระดำรัสของพระคริสต์  เขาเชื่อว่าพระองค์ทรงรักษาเขาให้หายได้และเขาก็ทำตามทันที  เขาอยากเดินและเขาก็เดินได้  เขาทำตามพระดำรัสของพระคริสต์และพระเจ้าทรงประทานกำลังให้เขา  เขาก็หายเป็นปกติ  {SC 50.1}
                ใน ทำนองเดียวกัน  ท่านเป็นคนบาป  ท่านลบความบาปที่ท่านทำมาแล้วในอดีตไม่ได้  ท่านเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านและทำให้ตัวของท่านบริสุทธิ์ไม่ได้  แต่พระเจ้าทรงสัญญาที่จะทำสิ่งทั้งหมดนี้ให้ท่านโดยผ่านทางพระคริสต์  ท่านเชื่อพระสัญญานั้น  ท่านสารภาพความบาปของท่านและถวายตัวของท่านเองให้พระเจ้า  ท่านตั้งใจที่จะรับใช้พระองค์  ทันทีที่ท่านทำเช่นนี้พระเจ้าจะทรงกระทำตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ให้แก่ ท่าน  ถ้าท่านเชื่อพระสัญญาของพระเจ้า  คือเชื่อว่าท่านได้รับการอภัยและการชำระแล้ว  พระเจ้าจะทรงประทานความจริงให้ท่าน  ท่านจะได้รับการรักษาให้หาย  เหมือนที่พระคริสต์ทรงประทานกำลังให้คนง่อยเดินได้  เมื่อเขาเชื่อว่าเขาหายจากโรคแล้ว  หากท่านเชื่อท่านก็จะหายได้เช่นกัน  {SC 51.1}
                อย่ารีรอจนท่านรู้สึกตัวว่า  ท่านหายดีแล้ว  แต่จงพูดว่า  ข้าพเจ้าเชื่อแล้วก็จะเป็นเช่นนั้น  ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้ารู้สึก  แต่เพราะพระเจ้าทรงสัญญาไว้แล้ว  {SC 51.2}
                พระเยซูตรัสว่า  เมื่อท่านอธิษฐานพระเจ้าขอสิ่งใด  จงเชื่อว่าได้รับและท่านจะได้รับสิ่งนั้น  (มาระโก 11:24)  มีเงื่อนไขผูกติดอยู่กับพระสัญญานี้  คือ  เราจะต้องอธิษฐานให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า  แต่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่จะทรงชำระเราจากความบาป  เพื่อให้เราเป็นบุตรของพระองค์และช่วยให้เราดำเนินชีวิตที่ชอบธรรม  ดังนั้น  เราจึงทูลขอพระพรเหล่นี้ได้และเชื่อว่าเราได้รับและขอบพระคุณพระเจ้าที่เราได้รับแล้ว  เป็นสิทธิพิเศษที่เราเข้ามาหาพระเยซูและรับการชำระให้สะอาดได้  และเราจะยืนอยู่หน้าพระบัญญัติเหล่านี้โดยปราศจากความละอายหรือความเสียใจ  เหตุฉะนั้นการลงโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์  (โรม 8:1)  {SC 51.3}
                ต่อแต่นี้ไป  ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง  ท่านถูกซื้อด้วยราคาสูง  พระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลาย.....มิใช่ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้  เช่นเงินและทอง  แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์  ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง  (1 เปโตร 1:18, 19) ด้วยวิธีการเชื่อพระเจ้าที่ง่ายๆ เช่นนี้  พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เริ่มชีวิตใหม่ในจิตใจของท่านแล้ว  ท่านเป็นเหมือนเด็กเกิดใหม่มาอยู่ในครอบครัวของพระเจ้าและพระองค์ทรงรักท่านเหมือนที่พระองค์ทรงรักพระบุตรของพระองค์  {SC 51.4}
                บัดนี้  ท่านได้มอบตัวท่านเองให้พระเยซูแล้ว  จงอย่าหันหลังกลับ  จงอย่านำตัวของท่านออกไปจากพระองค์  แต่ในทุกๆ วัน  ให้ท่านพูดว่า  ข้าพเจ้าเป็นของพระคริสต์  ข้าพเจ้าได้มอบถวายตัวข้าพเจ้าให้พระองค์แล้ว  และทูลขอพระองค์ให้พระทานพระวิญญาณของพระองค์แก่ท่าน  และรักษาท่านไว้  โดยพระคุณของพระองค์  เมื่อท่านมอบถวายตัวท่านเองให้พระเจ้า  และเชื่อในพระองค์  อัครทูตเปาโลได้กล่าวว่า  เมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสต์เจ้าแล้วฉันใด  จงปฏิบัติพระองค์ด้วยฉันนั้น  (โคโลสี 2:6)  {SC 52.1}
                บาง คนอาจจะรู้สึกว่า  เขาจะต้องถูกทดสอบและพิสูจน์ตนให้พระเจ้าเห็นว่าเขาได้ปฏิรูปแล้วเสียก่อน เขาจึงจะขอรับพระพรของพระองค์ได้  แต่พวกเขาเข้ามารับพระพรในเวลานี้ได้เลย  เขาต้องมีพระคุณของพระเจ้า  พระวิญญาณของพระคริสต์เพื่อช่วยความอ่อนแอในตัวของเรา  ความผิดของเรา  ความบาปของเรา  และกราบลงแทบพระบาทของพระองค์ด้วยความเสียใจต่อบาป  พระสิริของพระเจ้าจะโอบล้อมเราในอ้อมแขนแห่งความรักของพระองค์  และจะรักษาบาดแผลของเรา  และชำระเราให้พ้นจากความผิดทั้งหมด  {SC 52.2}
                คน มากมายล้มลงในเรื่องนี้  พวกเขาไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงอภัยให้เขาเป็นการส่วนตัวและเป็นรายบุคคล  พวกเขาไม่เชื่อตามพระดำรัสของพระเจ้า  เป็นสิทธิพิเศษของทุกคนที่ทำตามเงื่อนไขจะรู้ได้ด้วยตนเองว่า  การบาปผิดทุกรายจะได้รับการอภัยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ  จงทิ้งความสงสัยที่ว่า  พระสัญญาของพระเจ้าไม่ได้มีไว้ให้ท่าน พระสัญญานี้มีไว้ให้ผู้ล่วงละเมิดทุกคนที่กลับใจ  โดยทางพระคริสต์  พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมกำลังและพระคุณเพื่อทูตสวรรค์ผู้รับใช้จะนำไปให้แก่ จิตวิญญาณทุกดวงที่มีความเชื่อ  ไม่มีผู้ใดมีบาปที่หนาเกินไปที่จะเข้ามาหาพละกำลัง  ความบริสุทธิ์และความชอบธรรมที่มีอยู่ในพระเยซูผู้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน ไม่ได้  พระองค์ทรงรอคอยที่จะถอดเสื้อที่เปรอะเปื้อนและสกปรกด้วยบาปของพวกเขาออก  และสวมเสื้อแห่งความชอบธรรมให้แก่เขา  พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เขามีชีวิตอยู่และไม่ต้องตาย  {SC 52.3}
                พระเจ้าไม่ทรงปฏิบัติต่อเราเหมือนเช่นมนุษย์ที่เป็นเนื้อหนังปฏิบัติต่อกัน  ความคิดของพระองค์เป็นความคิดแห่งความเมตตา  ความรักและเอ็นดูพระองค์ตรัสว่า  ให้ คนอธรรมละทิ้งทางของเขา  และคนไม่ชอบธรรมสละความคิดของเขา  ให้เขากลับยังพระเจ้า  เพื่อพระองค์จะทรงกรุณาเขา  และยังพระเจ้าของเรา  เพราะพระองค์จะทรงอภัยอย่างล้นเหลือ  เราได้ลบล้างการทรยศของเจ้าเสียเหมือนเมฆ  และลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอก  จงกลับมาหาเรา  เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว (อิสยาห์ 55:7; 44:22)  {SC 53.1}
                “พระเจ้าตรัสว่า  เราไม่มีความพอใจในความตายของผู้หนึ่งผู้ใดเลย  จงหันกลับและดำรงชีวิตอยู่  (เอเสเคียล 18:32)  ซาตานพร้อมที่จะฉกชิงพระสัญญาอันประเสริฐของพระเจ้าไป  มันมุ่งมั่นที่จะเอาแสงแห่งความหวังที่ริบหรี่และลำแสงแห่งความจริงทั้งหมด ออกไปจากจิตวิญญาณ  แต่ท่านจะต้องไม่ปล่อยให้มันทำเช่นนี้  จงอย่าฟังผู้ล่อลวง  แต่ให้ท่านพูดว่า  พระเยซู สิ้นพระชนม์เพื่อให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่  พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า  และไม่ทรงประสงค์ให้ข้าพเจ้าพินาศ  ข้าพเจ้ามีพระบิดาบนสวรรค์ที่ทรงเมตตาปราณี  และถึงแม้ข้าพเจ้าได้ใช้ความรักของพระองค์ไปในทางที่ผิด  แม้ข้าพเจ้าได้ใช้พระพรที่พระองค์ทรงประทานให้แก่ข้าพเจ้าอย่างสุรุ่ย สุร่าย  ข้าพเจ้าจะลุกขึ้นไปหาพระบิดาของเรา  และพูดกับท่านว่า  บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย  ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป  ขอท่านให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนลูกจ้างของท่านคนหนึ่งเถิด  อุปมานี้บอกท่านให้ทราบว่า  ผู้ที่หลงหายไปได้รับการต้อนรับอย่างไร  เมื่อเขายังอยู่แต่ไกลบิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา  จึงวิ่งออกไปกอดคอจูบเขา  (ลูกา 15:18-20)  {SC 53.2}
                ถึงแม้อุปมานี้จะอ่อนหวานและจับใจเพียงไรก็ตาม  แต่ก็ยังบรรยายถึงพระเมตตาคุณของพระเจ้าแห่งสวรรค์ได้ไม่หมด  พระเจ้าทรงประกาศผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า  เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์  เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป (เยเรมีย์ 31:3)  ในขณะที่คนบาปยังอยู่ไกลบ้านของพระบิดา  เขาผลาญทรัพย์ของตนอยู่ในเมืองไกล  พระหทัยของพระบิดายังห่วงหาถึงเขา  และจิตวิญญาณทุกดวงที่ตื่นขึ้นและอยากจะกลับไปยังพระเจ้าก็เกิดจากการร้องขอ อย่างแผ่วเบาของพระวิญญาณของพระองค์ที่กำลังเรียกร้อง  เชิญชวน  ชักนำผู้ที่หลงหายไปให้กลับมายังพระหทัยที่เปี่ยมด้วยความรักของพระบิดา  {SC 54.1}
                ด้วย พระสัญญามากมายในพระคัมภีร์ที่อยู่ต่อหน้าท่าน  ท่านจะเปิดทางให้กับความสงสัยได้อย่างไร  ท่านจะเชื่อได้อย่างไรว่าเมื่อคนบาปผู้น่าสงสารอยากจะหันหลังกลับ  อยากจะละทิ้งความบาปของเขา  พระเจ้าจะทรงเกรี้ยวกราดไม่ยอมให้เขาเมายังแทบพระบาทของพระองค์เพื่อกลับใจ หรือให้ท่านทิ้งความคิดเช่นนี้ออกไปเสีย  ไม่มีสิ่งใดจะทำความเสียหายให้แก่จิตวิญญาณของท่านได้มากกว่าการที่ท่านจะ สนุกกับความคิดที่ว่าพระบิดาบนสวรรค์ของเราเป็นเช่นนี้  พระองค์ทรงเกลียดชังบาป  แต่พระองค์ทรงรักคนบาปและพระองค์ทรงประทานพระองค์เองในพระคริสต์  เพื่อให้ทุกคนที่ต้องการได้รับความรอด  และพระพรชั่วนิรันดร์ในแผ่นดินแห่งพระสิริ  พระองค์จะทรงใช้ภาษาใดที่หนักแน่นกว่าและอ่อนโยนกว่านี้เพื่อบรรยายถึงความ รักของพระองค์ที่มีต่อเราได้  พระองค์ทรงประกาศว่า  ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยังกินนมของนาง  และจะไม่เมตตาบุตรจากครรภ์ของนางได้หรือ  แม้ว่าคนเหล่านี้ยังลืมได้กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า  (อิสยาห์ 49:15) {SC 54.2}
                จง แหงนหน้ามองขึ้นไป  ท่านทั้งหลายที่สงสัยตัวสั่นสะท้านอยู่  เพราะพระเยซูทรงพระชนม์อยู่เพื่อเป็นผู้แก้ต่างของเรา  ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของประทาน  คือ  พระบุตรอันเป็นที่รักของพระองค์  และจงอธิษฐานเพื่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เพื่อท่านนั้นจะไม่เป็นการสูญ เปล่า  พระวิญญาณทรงเชิญท่านในวันนี้  ขอให้ท่านเข้ามาหาพระเยซูด้วยหัวใจทั้งหมดของท่าน  และท่านยื่นมือรับพระพรของพระองค์ได้  {SC 54.3}
                ในขณะที่ท่านอ่านพระสัญญา  จงจดจำไว้เสมอว่าพระสัญญาเหล่านั้นเป็นการแสดงความรักและพระเมตตาที่ไม่อาจจะเปล่งออกมาเป็นวาจาได้  พระหทัยยิ่งใหญ่ของพระองค์ผู้มีความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะเข้ามาหาคนบาปด้วยความเมตตาอันไร้ขอบเขต  เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์  คือได้รับการอภัยโทษบาปของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์  (เอเฟซัส 1:17)  ถูกแล้ว  เพียงเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยของท่าน  พระองค์ทรงประสงค์ที่จะนำพระฉายาด้านศีลธรรมกลับคืนมาให้มนุษย์  ในขณะที่ท่านเข้ามาใกล้พระองค์ด้วยการสารภาพและการกลับใจ  พระองค์จะทรงเข้ามาใกล้ท่านด้วยความเมตตาและการอภัย  {SC 55.1}



Visit us for more information http://www.greatesthope.com

For more information, please contact 
Alejandro at mienfield@yahoo.com
or contact
Thailand Adventist Mission 
12 Soi Pridi Banomyong 37, Sukhumvit 71
Klongtan Nua, Wattana, Bangkok 10110
 
Telephone: 02-391-3595, 02-391-0525
Fax: 02-381-1928
 
Information:  
P.O. Box 234 Prakanong Bangkok 10110 Thailand
 

VISIT ALSO


http://www.adventist.or.th/

http://thaivop.com/

No comments: